KORG Tone-Works AX10G

สำหรับใครที่เคยสัมผัสกับมัลติเอฟเฟกต์ Korg ToneWorks มาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น AX1000G หรือ AX1500G คงจะทราบซึ้งกันดีถึงสรรพคุณของระบบโมเดลลิ่งเทคโนโลยีที่เรียกว่า REMs อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Korg (แปลว่าพวกเขาคิดค้นมันขึ้นมาเองนั่นแหละ) ซึ่งหัวใจสำคัญที่สุดของโมเดลลิ่งซิกแนลโปรเซสเซอร์ที่ใช้ในมัลติเอฟเฟกต์ตระกูล ToneWorks ก็คือ REMs ที่ว่านี่เอง ว่าแต่ว่ามันคืออะไรกันหรือ?

REMs ย่อมาจากคำว่า Resonant Structure & Electronic Circuit Modeling System แปลตรงๆก็คือระบบการจำลองโครงสร้างเสียงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หรือจะแปลแบบขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือ การเลียนแบบโครงสร้างทางธรรมชาติของเสียง ซึ่งในที่นี้ก็คือเสียงเครื่องดนตรี อาจจะเป็นได้ตั้งแต่เสียงที่มีโครงสร้างซับซ้อนอย่างพวกเครื่องดนตรีอคูสติก หรือจะเป็นการเลียนแบบเสียงเครื่องดนตรีที่ผ่านกระบวนการทางไฟฟ้า เช่นเสียงกีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้ปิ้กอัพต่างกัน เสียงกีตาร์ที่เล่นผ่านแอมป์และตู้ลำโพงต่างชนิดกัน อะไรอย่างนี้เป็นต้น ซึ่ง Korg ได้พยายามคิดค้นจนได้ออกมาเป็นระบบโมเดลลิ่งที่สามารถให้เสียงที่สมจริงและใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ระบบ REMs ตัวนี้สามารถจำลองเสียงเครื่องดนตรีของคุณ(ซึ่งในที่นี้ก็คือกีตาร์นั่นเอง)ให้ออกมามีแคแรกเตอร์ ของเสียงตรงตามแบบฉบับเฉพาะของแหล่งกำเนิดอย่างที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมิติความก้องกังวานของเสียงตามสภาพแวดล้อม หรือจะเป็นชนิดของตู้แอมป์รวมถึงลักษณะของตู้ลำโพง รวมถึงเอฟเฟกต์สารพัดชนิด

และในปี 2004 นี้ Korg มีน้องใหม่เป็นรุ่น AX10G จากครอบครัว ToneWorks มาแนะนำกัน ความจริงรุ่นนี้มีออกมาอีกสองโมเดลสำหรับใช้กับเบส (AX10B) และกีตาร์อคูสติก (AX10A) ความพิเศษของ AX10G ก็คือยังคงใช้เทคโนโลยี REMs เหมือนกับรุ่นพี่ใหญ่ มีชนิดของแอมป์และเอฟเฟกต์ให้เลือกมากมาย คุณสามารถเลือกซาวน์ดแอมป์ที่ถูกใจและเหมาะกับเพลงได้หลากหลายตั้งแต่ซาวน์ดในแบบ "แอมป์วินเทจ" ที่ให้น้ำเสียงมีเสน่ห์และมีแคแรกเตอร์เด่นชัดจนได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำเสียงแห่งความคลาสสิคเสมอมา ไปจนถึงซาวน์ดแอมป์ "บูติกไฮ-เอนด์" ในส่วนของเอฟเฟกต์ AX10G ก็ได้นำเอาเสียงเอฟเฟกต์ที่โดดเด่นมารวมไว้ด้วยกันให้คุณได้เลือกใช้ ส่วนน้ำเสียงเรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับพวกเอฟเฟกต์แร็ค (rack) หรือก้อน (stompbox) เลยทีเดียว

ใน AX10G มีแอมป์ให้คุณเลือกใช้ถึง 11 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะให้ระดับความแตกของดิสทอร์ชั่นที่ต่างกัน ไล่เริ่มขึ้นไปตั้งแต่เสียงใสในแบบแอมป์บูติคไฮ-เอนด์ ไปจนถึงแตกพอท้วมๆออกโทน crunch ที่ให้ความอุ่นสไตล์แอมป์หลอด หรือจะให้แตกพร่ากร้าวกร้านสุดๆแบบเสียงแตก fuzz ก็ได้…ถึงตอนนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแอมป์บูติคนี่มันคืออะไร? คือความจริงแล้วแอมป์บูติคเราจะใช้เรียกแอมป์ประเภทแฮนด์เมดที่สร้างขึ้นโดยบริษัทเล็กๆแต่เน้นเนื้องานที่ละเอียดประณีตตามใบสั่งของลูกค้า เรียกว่าเป็นแอมป์คัสตอมเมดก็ได้ และพวกนี้จะเป็นแอมป์ไฮ-เอนด์เพราะราคาจะแพงมากเนื่องจากวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ล้วนแต่เป็นของที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพโดยช่างผู้ชำนาญจริงๆ นอกจากจะราคาแพงแล้วยังค่อนข้างมีความโดดเด่นของซาวน์ดที่เฉพาะตัวจริงๆ

   
 
สำหรับชนิดของแอมป์ 11 แบบที่ว่านี้ได้แก่ :

BTQ CLN

เสียงใสกริ๊งแบบแอมป์บูติคไฮ-เอนด์
BLK212 ตู้แอมป์คอมโบ Fender รุ่นวินเทจ (ตู้สีดำ) เช่นพวก Twin Reverb, Super Reverb '65 เป็นต้น ส่วน 212 แปลว่าใช้กับตู้ที่มีลำโพงขนาด 12 นิ้ว 2 ดอกนั่นเอง แอมป์ชนิดนี้น่าจะเข้าทางมือกีตาร์ประเภทคันทรี่ ป็อบ หรือบลูส์ได้ดี

TWD410

ตู้สี Tweed (หุ้มด้วยผ้าสีเหลืองไข่ไก่) รุ่นคลาสสิคของ Fender เช่นตู้ Bassman ปี '59 เป็นต้น และใช้ร่วมกับตู้ที่มีลำโพงขนาด 10 นิ้ว 4 ดอก
AC15 ตู้แอมป์วินเทจ Vox AC15 ที่สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1962 จัดเป็นแอมป์คลาสสิคสุดรุ่นหนึ่งของ Vox เลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนที่นิยม ซาวน์ดกีตาร์วินเทจประมาณ the Shadows และแนวๆนี้
C30TB ตู้คอมโบแอมป์หลอด Vox AC30 สุดคลาสสิค (TB หมายถึง Tube) สำหรับใครที่ใช้กีตาร์ Fender Strat ขอแนะนำให้ลองใช้ AC30 นี้ร่วมกับเอฟเฟกต์ Echo คุณจะได้น้ำเสียงที่ออกมามีความสะอาด ใส อิ่ม และมีพลัง และยิ่งถ้าคุณเร่งวอลลุ่มที่แอมป์ให้ดังขึ้น ดีดสายให้แรงขึ้น และใส่เสียงแตก Fuzz เข้าไปอีกนิดหน่อย คุณก็จะได้ซาวน์ดใกล้เคียงมือกีตาร์บลูส์ร็อคอย่างเช่น Jeff Beck หรือ Rory Gallagher เลยทีเดียว วงอย่าง the Rolling Stones ในยุคแรกๆก็ใช้แอมป์ Vox AC30 นี้เช่นกัน (หมายเหตุ : เนื่องจากครั้งหนึ่ง Vox เคยสร้าง AC30 เป็นทรานซิสเตอร์ แต่สุดท้ายแล้วความคลาสสิคที่ผู้คนยอมรับก็คือซาวน์ดที่เป็นหลอดอยู่นั่นเอง)

UK'70S

เสียงหัวแอมป์ตระกูลอังกฤษ ประเภทแอมป์ Marshall 100 วัตต์ที่สร้างขึ้นราวปี 1969 มีย่านแหลมค่อนข้างโดดเด่น เหมาะสำหรับมือกีตาร์ที่ชื่นชอบซาวน์ดกีตาร์คลาสสิคร็อคอย่าง Led Zeppelin, Jimi Hendrix หรือ Eddie Van Halen ฯลฯ คงจะถูกใจกับซาวน์ดนี้

UK'80S

เสียงหัวแอมป์ตระกูลอังกฤษ ประมาณ Marshall 100 วัตต์ที่สร้างขึ้นราวปี 1983

UK MDN
เสียงหัวแอมป์ตระกูลอังกฤษ เช่น Marshall 100 วัตต์ เป็นแอมป์สมัยใหม่

RECTO

เป็นเสียงแอมป์ประเภท Hi-Gain เลียนแบบเสียงตู้และปรีแอมป์สายพันธุ์อเมริกันอย่าง Mesa/Boogie ที่ให้น้ำเสียงออกไปทางกร้าวกร้านและหยาบดิบกว่าพวกแอมป์อังกฤษ เป็นที่นิยมในหมู่มือกีตาร์รุ่นใหม่สไตล์เฮฟวี่เมทัล ฮาร์ดคอร์ที่ต้องการความดุดันหรือพวก Nu Metal สมัยใหม่อย่างวง Korn เป็นต้น

FUZZ

เสียงวินเทจ Fuzz เป็นการเลียนแบบเสียงแตกของเอฟเฟกต์ก้อนเช่นพวก Dallas/Arbiter Fuzz Face หรือ Big Muff ที่ให้เสียงแตกพร่าในแบบ fuzz แท้ๆ Jimi Hendrix คือมือกีตาร์คนหนึ่งที่ไม่เคยขาด Fuzz เมื่ออยู่บนเวที นอกจากนี้ยังใช้ได้ดีกับซาวน์ดร็อคสมัยใหม่ที่ต้องการความแตกพร่ามากๆเช่นวง Korn เป็นต้น
 
 
หน้าถัดไป >

 
 

 

 

    ©Copyright 2005 Beh Ngiep Seng Musical Instruments Ltd.,Part. All reserved.