Toneworks AX3000G

หลังจากที่เคยสร้างความประทับใจให้กับบรรดามือกีตาร์มาแล้วหลายปีกับสุดยอดมัลติดเอฟเฟกต์ครบเครื่องอย่าง ToneWorks AX1500G หลายคนต่างรอคอยอย่างใจจดจ่อว่า ToneWorks จะพัฒนา " ความสมบูรณ์แบบ " ให้กลายเป็น " ความสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า " ไปได้อย่างไร ! ซึ่งก็นับเป็นความท้าทายของทีมวิจัยและพัฒนาของ Korg ToneWorks ด้วยเช่นกัน จนในที่สุดได้มีการเปิดตัว AX3000G โมเดลลิ่งซิกแนลโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดขึ้นเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมเครื่องดนตรี "Musikmesse" ปี 2005 ณ ประเทศเยอรมัน

AX3000G ยังคงนำเทคโนโลยีโมเดลลิ่ง REMs อันเลื่องชื่อของ Korg มาเป็นกุญแจสำคัญในกระบวนการสร้างซาวด์โมเดลลิ่ง ซึ่งผู้ใช้สามารถคอนโทรลซาวด์ต่างๆได้หลายวิธีและเรียลไทม์ยิ่งขึ้นโดยผ่านแป้นเหยียบ " เอ็กเพรสชั่น พีดัล " หรือปุ่ม " คอนโทรล สวิตช์ " ที่เพิ่มเข้ามา รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นใหม่อย่างระบบ ESS (Expression Step Sequencer) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ในหลายๆด้าน

 
 


สิ่งหนึ่งที่ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดก็คือสีสันหน้าตาจาก AX1500G สีบรอนซ์เงินมาเป็นสีดำที่ให้ความรู้สึกบึกบึนทนทานอยู่ในที ส่วนตำแหน่งปุ่มปรับต่างๆถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำความเข้าใจกับฟังค์ชั่นการทำงานของเครื่องได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดคู่มือ หลักๆแล้วก็ยังคงแบ่งเป็นสัดส่วน ได้แก่ ส่วนของ Effect Block , ปุ่มหมุนสำหรับปรับค่าพารามิเตอร์ต่างๆ , สวิตช์เหยียบสำหรับเลือกโปรแกรม , หน้าจอแสดงผล LCD/ หน้าปัดคอนโทร และส่วนของแป้นเหยียบเอ็กเพรสชั่นพีดัล

AX3000G นำเสนอแอมป์โมเดลและเอฟเฟกต์รวมแล้วถึง 72 ชนิดอัพเกรดจากเดิม 56 ชนิดที่เคยมีให้ใน AX1500G ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ได้มีการจัดระบบการแบ่งเอฟเฟกต์ในส่วนของ Effect Block ได้อย่างเป็นหมวดหมู่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะมีการแบ่งเป็น : Pre Effect, Drive/Amp, Modulation, Delay และ Reverb โดยจะเห็นว่าเอฟเฟกต์ Delay แต่เดิมใน AX1500G จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Effect Block ประเภท Pedal และ Ambience เท่านั้น

สำหรับแป้นเหยียบเอ็กเพรสชั่น พีดัลนั้น นอกจากจะใช้คอนโทรลเอฟเฟกต์อย่างปรกติทั่วไปเช่นเป็นโวลลุ่มเท้าหรือวาห์ วาห์แล้ว เรายังใช้แป้นเหยียบตัวนี้ในการควบคุมลักษณะน้ำเสียงหรือการปรับค่าพารามิเตอร์ของเอฟเฟกต์อื่นๆได้อย่างอิสระอีกด้วย เช่น ใช้คอนโทรลลักษณะการกวาดของเสียงในเอฟเฟกต์ "Flanger" หรือใช้เป็นตัวคอนโทรลค่าดีเลย์ไทม์ในเอฟเฟกต์ "Echo Plus" หรือใช้คอนโทรลความก้องของเสียง (Decay Time) ของเอฟเฟกต์ประเภท "Reverb" รวมไปถึงสามารถใช้คอนโทรลค่า Speed ในเอฟเฟกต์จำพวก Chorus, Flanger, Phaser และอีกมากมายได้อีกด้วย

อีกปุ่มหนึ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็คือ " คอนโทรล สวิตช์ " ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสะดวกกับการคอนโทรลเอฟเฟกต์ยิ่งขึ้นเมื่อใช้ในการแสดงสด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะเปลี่ยนไปใช้เอฟเฟกต์ที่คุณพ่วงไว้ภายนอก คุณก็สามารถใช้มันเป็นตัวเปิด / ปิดชุดของเอฟเฟกต์หรือ Effect Block ที่กำลังใช้อยู่ หรือใช้มันเป็นตัวตั้งค่าพารามิเตอร์ของเอฟเฟกต์ได้ อย่างเช่นเซ็ต Tap Tempo ของ Delay ได้แบบเรียลไทม์ หรือใช้เปลี่ยนความเร็วในการหมุนของเอฟเฟกต์ที่เลียนแบบตู้ลำโพงหมุน หรือใช้เป็นตัวคอนโทรลตัว ESS หรือ Expression Step Sequencer ก็ได้

 


สำหรับ ESS หรือ Expression Step Sequencer นี้เป็นฟังค์ชั่นใหม่ที่มีเข้ามาใน AX3000G ที่จะทำหน้าที่คอนโทรลการปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ของเอฟเฟกต์ส่วนใหญ่ในลักษณะเป็นสเต็ปหรือขั้นโดยอัตโนมัติ ทั้งแบบกำหนดตายตัวหรือแบบเลือกสุ่มก็ได้ โดยที่เราสามารถกำหนดค่าพารามิเตอร์ของเอฟเฟกต์ในสเต็ปซีเควนเซอร์นี้ได้ถึง 8 สเต็ป และยังกำหนดวิธีการที่จะให้ตัวซีเควนเซอร์นี้เล่นเสียงออกมาตามสเต็ปที่เราต้องการได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ซาวด์ที่มีความซับซ้อนได้อย่างง่ายดายและมีความน่าสนใจขึ้น

ยกตัวอย่างการใช้ ESS กับเอฟเฟกต์ Pitch Shifter โดยกำหนดปริมาณของระดับเสียงที่เราจะต้องการจะเปลี่ยนไปตามสเต็ป ผลลัพธ์ก็คือเราจะได้ซาวด์ที่ชวนให้นึกถึงซินธิไซเซอร์ หรือจะใช้ ESS กับวาห์ วาห์เพื่อสร้างเสียงวาห์ให้มีลักษณะการเคลื่อนไหวเป็นขั้นๆ และยังมีไฟ LED บอกสถานะดวงใหญ่เห็นเด่นชัดแม้ในที่มืดที่จะเป็นตัวบอกจำนวนสเต็ปในซีเควนซ์ทั้งหมดหรือบอกสเต็ปที่กำลังถูกใช้งานอยู่

และใน AX3000G ยังมีเครื่องตั้งสายชนิดโครมาติกที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องถูกปิดเสียง (mute) หรือถูก Bypass เพียงแค่คุณเลือกไปที่โมด Mute คุณก็สามารถตั้งสายกีตาร์ได้อย่างเงียบเชียบโดยไม่มีเสียงเล็ดรอดผ่านตู้แอมป์ออกมาให้ได้ยิน โดยที่ชื่อตัวโน้ตจะปรากฎที่หน้าจอและคุณสามารถดูระดับเสียงเพื่อความเที่ยงตรงได้ที่ Pedal Indicator ซึ่งจะเป็นไฟ LED 8 จุด ( ตัวเดียวกันกับที่เป็น Expression Step Sequencer นั่นเอง )

เนื่องจาก Output ของ AX3000G นี้สามารถพ่วงเข้ากับแอมป์กีตาร์ได้หลายชนิด ซึ่งแน่นอนว่าแอมป์แต่ละชนิดย่อมให้น้ำเสียงที่แตกต่างกัน หรือบางครั้งก็พ่วงเข้ากับเครื่องบันทึกเสียงหรือบอร์ดมิกเซอร์ ดังนั้น AX3000G จึงถูกออกแบบให้มีการตั้งลักษณะการปรับอีควอไลเซอร์ที่ต่างกัน 4 แบบเพื่อให้คุณได้น้ำเสียงผ่านแอมป์ออกมาดีที่สุด โดยที่คุณสามารถเลือกลักษณะเอาต์พุตได้ดังนี้ :: AP1 ใช้สำหรับพ่วงกับแอมป์คอมโบอเมริกาและมีด้านหลังเปิด , AP2 สำหรับพ่วงกับแอมป์คอมโบของอังกฤษที่มีด้านหลังเปิดและโดดเด่นที่น้ำเสียงย่านกลาง (mid-range), AP3 สำหรับพ่วงกับแอมป์สแต็คที่มีหัวแอมป์กับตู้ลำโพงขนาด 4x12 และสุดท้าย Ln สำหรับเมื่อคุณต่อออกผ่าน Line ( รวมถึง S/P DIF OUT ด้วย ) ไปยังเครื่องบันทึกเสียงหรือบอร์ดมิกเซอร์หรือไปเข้าเพาเวอร์แอมป์ที่แอมป์กีตาร์ของคุณ ส่วนใครที่ต้องการจะพ่วงเอฟเฟกต์สตอมพ์บ็อกซ์ตัวโปรดเข้าไปด้วยก็สามารถทำได้ด้วยการต่อผ่านช่อง Insert SEND/RETURN นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับดิจิตัลเอาต์พุต S/P DIF OUT (16-bit, 44.1 kHz Optical) ที่ให้คุณสามารถอัดกีตาร์ด้วยระบบดิจิตัลหรือกับคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นฟังค์ชั่นใหม่ที่ AX3000G ได้รับการอัพเกรดมาเพื่อการใช้งานที่กว้างและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น

AX3000G มีโปรแกรมพรีเซ็ต 32 โปรแกรมและมีหน่วยความจำที่สามารถบรรจุอีก 96 โปรแกรมที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง และเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่คุณอาจจะเผลอไปปรับเปลี่ยนปุ่มหรือสวิตช์ต่างๆโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่อยู่บนเวที AX3000G จึงสร้างตัว Key Lock ขึ้นมาเพื่อให้คุณมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซนต์ว่าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นแน่นอน

AX3000G สามารถรับข้อมูลการเปลี่ยนโปรแกรมและสามารถส่งข้อมูล MIDI เพื่อควบคุมอุปกรณ์ MIDI ชิ้นอื่นได้ผ่านช่อง MIDI IN/OUT และคุณยังสามารถคอนโทรล AX3000G ผ่านโปรแกรมซอฟต์แวร์ DAW ได้อีกด้วย นอกจากนี้ Korg ยังมีซอฟต์แวร์ "AX3000G Sound Editor" ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับ Edit เครื่อง ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพการปรับแต่งค่าพารามิเตอร์ของเอฟเฟกต์ต่างๆได้ชัดเจนขึ้นทำให้ง่ายต่อการตัดต่อ / ตกแต่งซาวด์ และยังช่วยให้คุณสามารถจัดระบบโปรแกรมและเซฟข้อมูลได้ได้อีกด้วย สำหรับใครที่มีคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows98/Me/2000/XP หรือ Mac ตั้งแต่ OS X v10 ขึ้นไปสามารถดาวน์ โหลดโปรแกรมตัวนี้ได้ที่เว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่าย Korg ของคุณ

 

 


 

    ©Copyright 2005 Beh Ngiep Seng Musical Instruments Ltd.,Part. All reserved.